วันศุกร์ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2555

มาผอมกันเถอะค่ะ


มาผอมกันเถอะค่ะคำว่า "อ้วน"  กลัวกันไหมค่ะ



              เป็นเรื่องที่ปฎิเสธไม่ได้ว่าสาวๆอย่างเราๆกลัวอ้วน แล้วยิ่งทุกวันนี้ ดารา นางแบบ ส่วนใหญ่จะมีรูปร่างบางเพียวลม ทำให้ผู้หญิงหลายๆคน อยากจะหุ่นดีเหมือนดารานางแบบกับเค้าบ้าง  จึงพยายามลดน้ำหนัก โดยลืมไปว่าคุณและนางแบบ เป็นคนละคนกัน กลายเป็นว่านอกจากน้ำหนักไม่ลดแล้ว คุณยังเสียสุขภาพจิตอีกด้วย
 
คุณเคยคิดบ้างไหมว่า คุณอ้วนเพราะอะไรแล้วสาเหตุใดที่ทำให้คุณอ้วน ไปดูปัจจัยในการอ้วนดีกว่าค่ะ

ปัจจัยสำคัณที่ทำให้อ้วน
ยีน(Grenes) หรือพันธุกรรม
ถ้าคนในครอบครัวของคุณมีน้ำหนักเกินพิกัด ไม่ว่าจะเป็น คุณพ่อคุณแม่ หรือแม้กระทั่งคุณปู่
นั่นก็หมายความว่า คุณอาจได้รับยีนความอ้วนเป็นมรดกตกทอด ซึ่งทำให้คุณอ้วนถึงร้อยละ 30
แต่ถึงแม้ว่าคุณจะได้รับมรดก(ที่ไม่น่าจะได้รับนี้)แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า คุณจะต้องอ้วนเสมอไป
นักวิจัยและแพทย์พบว่า ถ้าคุณรู้จักควบคุมอาหารและออกกำลังกายเป็นประจำ คุณก็มีรูปร่างผอมได้
 
โรคบางชนิด
โรคบางโรคมีผลข้างเคียงทำให้เกิดน้ำหนักตัวได้ เช่น โรคเกี่ยวกับต่อมไทรอยด์ ซึ่งเป็นต่อมควบคุม
การเผาผลาญไขมัน หากเกิดอาการผิดปกติกับต่อมไทรอยด์ก็อาจทำให้อ้วนได้(เช่นนักร้องสาว ทาหรือยังนั่นเอง)
หรือผู้ป่วยไทรอยดืฮอร์โมนต่ำ (Hypothyroidism)ซึ่งเป็นผู้ป่วยที่รับประทานน้อยแต่น้ำหนักเพิ่ม
นอกจากนี้ผลข้างเคียงจากการทานยารักษาโรคบางชนิด ทำให้เกิดปัญหาเรื่องน้ำหนักตามมา ซึ่งโรคเหล่านี้
ต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์ในการที่จะควบคุมน้ำหนักเพื่อไม่ให้เกินมาตรฐาน ซึ่งปัจจัยนี้ก็เป็นเหตุสุดวิสัยจริงๆค่ะ
 
ความผิดปกติทางอารมณ์
ยิ่งเครียดยิ่งกิน อกหักรักคุดยิ่งกิน สอบตกก็กิน ตกงานก็กิน หากคุณมีอาการเช่นนี้ นั่นเป็นเพราะว่าคุณกำลัง
หนีปัญหาด้วยการกิน จิตแพทย์ชาวอังกฤษท่านหนึ่งกล่าวว่า ผู้ป่วยที่มาหาเขาส่วนมากจะมีความผิดปกติ
ทางอารมณ์ หรือ ความเครียดนั่นเอง และส่วนใหญ่จะหาทางออกด้วยการรับประทานอาหาร ซึ่งเป็นความคิดที่ผิด
อาหารจำพวกแป้ง น้ำตาล ไขมันนั้น ไม่ทำให้ความเครียดลดลงไป แต่จะเป็นการเพิ่มน้ำหนักให้แทน
 
รับประทานมากแต่ออกกำลังน้อย
คนส่วนใหญ่จะอ้วนเพราะสาเหตุนี้กันเยอะ นั่นเป็นเพราะการรับประทานอาหารมากเกินพอดี(ก็มันอร่อย)
การรับประทานอาหารที่ไท่ถูกสุขลักษณะ และขาดการออกกำลังกาย เกิดการสะสมของไขมันจนเป็นความอ้วนในที่สุด
 
นอกจากปัจจัยต่างๆแล้วยังมีปัจจัยอีกเล็กน้อย เช่น
เพศ:เพศชายมีกล้ามเนื้อมากกว่าผู้หญิง ทำให้กล้ามเนื้อเหล่านั้นเผาผลาญแครอลี่ 10-20% ส่วนผู้หญิงมีการสะสมไขมัน
มากกว่าผู้ชายจึงทำให้อ้วนง่ายกว่า (ไม่ยุติธรรมเลย)
 
อายุ:เมื่ออายุมากขึ้นการเผาผลาญพลังงานก็จะลดน้อยลง ต้องเปลี่ยนเป็นการรับประทานอาหารที่มีแครอลี่ที่น้อยลง
 
ตั้งครรภ์:ผู้หญิงทุกคนในระหว่างตั้งครรภ์น้ำหนักตัวจะเพิ่มขึ้น 2-3 กิโลกรัม แต่บางคนอาจเพลิดเพลิน
ในการรับประทานอาหารทำให้น้ำหนักเกินมาตรฐาน จึงเป็นผลต่อเนื่องหลังคลอด
 
เมื่อคุณอ่านจนจบแล้ว อย่าลืมสำรวจพฤติกรรมในการรับประทานอาหารของคุณหล่ะ เพราะมันส่งผล
ในเรื่องน้ำหนักมากเลยทีเดียว เพราะพฤติกรรมในการกินของคนเราแตกต่างกัน ดังนั้นรูปร่างจะดี หรือ จะอ้วน
ก็อยู่ที่คุณแล้วหล่ะ คราวหน้าเราจะมีอะไรมาฝากโปรดติดตาม 
ก็ผู้หญิงอยากสวยค่

มาดูกันดีกว่าค่ะ น้ำหนักของคุณเกินหรือป่าว เพราะเรามีสูตรการคำนวณน้ำหนักมาฝากด้วยค่ะ
 
 
เริ่มเลยจ้า
การคำนวณของเราครั้งนี้จะใช้ ทฤษฎี Body Mass Index(BMI)
ซึ่งเป็นวิธีวัดความอ้วนตามแบบมาตรฐานสากล โดยการนำดัชนีมวลกายมาวัดความอ้วนผอม

มีวิธีง่ายๆ 3 ขั้นตอนคือ
1 เปลี่ยนความสูงจากเซ็นติเมตร เป็นเมตร
เช่น คุณสูง 150 เซ็นติเมตร= 1.5 เมตร
2 นำความสูงที่ได้มาคูณ 2 เช่น 1.5x1.5= 2.25
3 เอาน้ำหนักตัวของคุณมาหารด้วยผลลัพธ์ เช่น คุณหนัก 47/2.25 = 20.08

 
จากนั้นก็เอาค่าที่หาได้มาดูตาราง Body Mass Index มีค่าดังนี้
19-24 สุขภาพดี
25-29 น้ำหนักเกิน
30-45 อ้วน
 
เพราะฉะนั้นถ้าคุณสาวๆมีค่า BMI อยู่ระหว่าง 18.5-24.9 ก็ถือว่าคุณอยู่ในเกรณฑ์สุขภาพดีค่ะ
แต่ถ้ามากกว่า 25 ขึ้นไปคุณอยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่จะเป็นโรคอ้วนแล้วหล่ะค่ะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น