วันพฤหัสบดีที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2555

พิชิตขั้วโลกใต้เมื่่อ 100 ปีที่ผ่านมา


พิชิตขั้วโลกใต้เมื่่อ 100 ปีที่ผ่านมา 

Edited! นายกรัฐมน...อร์เวย์ไปเยือนสถานีวิจัยที่ขั้วโลกใต้ในโอกาสที่การสำรวจดินแดนแห่งนี้ดำเนินมาครบ 100 ปี (ไลฟ์ไซน์) 

 
       ย้อนกลับไปเมื่อ 100 ปีก่อนสองนักสำรวจชาวนอร์เวย์และอังกฤษได้แข่งขันกันไปให้ถึง “ขั้วโลกใต้” มีคนหนึ่งที่ไปถึงก่อนและอีกคนตามหลังไปอย่างเฉียดฉิว (เมื่อคำนึงถึงการคมนาคมในยุคนั้น) แต่อีกคนไม่สามารถเอาชีวิตรอดกลับมาจากดินแดนหนาวเหน็บได้ ถึงอย่างนั้นทั้งคู่ก็ได้เปิดประตูสู่การสำรวจโลกที่มีสภาพแวดล้อมเป็นลักษณะเฉพาะตัว

      Roald Amundsen


 
อามุนต์เซน และทีมสำรวจ 
  
อามุนต์เซน และทีม ถึงที่หมายก่อน
      เมื่อ 14 ธ.ค. 1911 โรอัลด์ อามุนด์เซน (Roald Amundsen) นักสำรวจชาวนอร์เวย์ และคณะ ได้ไปถึงขั้วโลกใต้ อันเป็นทวีปที่หนาบเหน็บ แห้งแล้ง และเต็มไปด้วยลมกระโชกแรงมากที่สุดในโลก และหลังจากนั้นในวัน 17 ม.ค.1912 กัปตัน โรเบิร์ต ฟอลคอน สก็อตต์ (Robert Falcon Scott) นักสำรวจชาวอังกฤษและคณะก็ตามไปถึงและพบว่าคณะสำรวจจากนอร์เวย์ได้ชิงตำแหน่งมนุษย์กลุ่มแรกที่ไปเยือนขั้วโลกใต้ก่อนแล้ว

 
Robert Falcon Scott
 
สก๊อต และทีมสำรวจ
       น่าเศร้าเมื่อสก็อตต์ได้เสียชีวิตท่ามกลางกองน้ำแข็งระหว่างที่พยายามกลับจากขั้วโลกใต้ แต่ถึงอย่างนั้นการเดินทางทั้งไปและกลับอันยากลำบากของทีมสก็อตต์จากขั้วโลกก็นำตัวอย่างหินและฟอสซิลหนักกว่า 15 กิโลกรัมกลับมาด้วย และเป็นงานที่วางรากฐานการศึกษาวิทยาศาสตร์ยุคใหม่ในขั้วโลกใต้ ซึ่งมีการตั้งสถานีวิจัยขั้วโลกใต้อามุนด์เซน-สก็อตต์ (Amundsen-Scott South Pole Station) ที่ดำเนินการโดยโครงการแอนตาร์กติก (Antarctic Program) ของสหรัฐฯ ภายใต้การบริหารจัดการจากมูลนิธิวิทยาศาสตร์สหรัฐฯ (National Science Foundation) เพื่อเป็นเกียรติแก่นักสำรวจทั้งคู่
     
       ณ สถานีวิจัยดังกล่าวนักวิทยาศาสตร์ได้สำรวจจุดที่ทั้งอามุนด์เซนและสก็อตต์ไปถึงอย่างลำบากจนทั่ว และที่สถานีแห่งนี้ไลฟ์ไซน์ระบุว่าโครงสร้างที่พร้อมสำหรับการทำงานวิทยาศาสตร์ขนาดมหึมา ใกล้ๆ กันยังมีกล้องโทรทรรศน์วิทยุขนาด 10 เมตรที่ปัจจุบันถูกใช้งานเพื่อศึกษาธรรมชาติอันลึกลับของสสารมืด โดยลึกลงไปใต้แผ่นน้ำแข็งมีเครื่องตรวจวัดอนุภาคทรงลูกบาศก์ที่แต่ละด้านกว้าง 1 กิโลเมตร สำหรับค้นหาอนุภาคลึกลับที่เรียกว่า “นิวทริโน” (neutrino)
     
       สถานีวิจัยอามุนด์เซน-สก็อตต์เป็น 1 ใน 3 สถานีวิจัยที่ดำเนินการตลอดปีของโครงการแอนตาร์กติกสหรัฐฯ ส่วนสถานีอื่นๆ ในคาบสมุทรแอนตาร์กติก (Antarctic Peninsula Region) คือ สถานีวิจัยแมคมัวร์โด (McMurdo Station) ณ เกาะรอสส์ (Ross Island) และ สถานีวิจัยปาล์เมอร์ (Palmer Station) ณ เกาะแอนเวอร์ส (Anvers Island) และแม้ว่าทวีปแอนตาร์กติกาจะไม่เป็นมิตรต่อผู้มาเยือน แต่สถานีวิจัยทั้งสามก็ไม่เคยร้างลานักวิทยาศาสตร์ เพราะสภาพแวดล้อมอันเอื้ออำนวยต่อสิ่งมีชีวิตที่มีลักษณะพิสดาร ความน่าตื่นตาตื่นใจของภูมิประเทศ รวมถึงสภาพทางทะเลและบรรยากาศที่ไม่อาจพบได้ที่อื่นบนโลกอีก
     
       ตัวอย่างเช่นตอนนี้นักวิทยาศาสตร์กำลังศึกษาการปรับตัวในท้องถิ่นที่ทำให้สิ่งมีชีวิตหลากลหายรูปแบบอาศัยอยู่ได้ ตั้งแต่ในรูปของจุลินทรีย์ไปจนถึงเพนกวินและแมวน้ำที่สามารถมีชีวิตรอดในทวีปแอนตาร์กติกาได้ ซึ่งไลฟ์ไซน์ระบุว่าการศึกษาดังกล่าวนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเรื่องสุขภาพของมนุษย์ นอกจากนี้นักวิจัยยังดูสภาพการดำรงชีวิตและการทำงานของทีมวิจัยในแอนตาร์กติกาเพื่อทำความเข้าใจที่ดีขึ้นว่าคนเราสามารถรอดชีวิตในระบบนิเวศอันทารุณได้อย่างไร
     
       สิ่งมีชีวิตบางชนิดในแอนตาร์กติกานั้นอยู่ภายใต้ความกดดันอันจำเพาะการลดลงของทะเลน้ำแข็งบางส่วนในแอนตาร์กติส่งผลกระทบวิกฤตต่อเพนกวิน 2 สปีชีส์ที่มีจำนวนจำกัด และน้ำทะเลที่อุ่นขึ้นก็อาจส่งผลกระทบให้เกิดการเพิ่มจำนวนสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ใต้ทะเล โดยเฉพาะอย่างยิ่งดาวทะเลยักษ์ แมงกะพรุนและแมงมุมทะเล
     
       นักวิทยาศาสตร์ยังสังเกตผลการเปลี่ยนแปลงระดับโลกอันเกี่ยวเนื่องกับทวีปแอนตาร์กติกา อย่างเช่นสถานะปัจจุบันของชั้นโอโซนโลก ซึ่งปกป้องเราจากรังสีอัลตราไวโอเลต และผลกระทบที่อุบัติขึ้นเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก รวมถึงการเฝ้าสังเกตการตอบสนองของแอนตาร์กติกาต่อโลกที่กำลังร้อนขึ้น เช่น ความเป็นกรดของน้ำในมหาสมุทรและการแยกของธารน้ำแข็งจากแผ่นน้ำแข็งทวีป เป็นต้น ซึ่งมีความสำคัญต่อความเข้าใจปัจจัยที่ทำให้นำแข็งส่งผลกระทบต่อระดับน้ำทะเล


เครื่องหมายทำจากทองแดงที่สถานีวิจัยอามุนด์เซน-สก็อตต์ แสดงสัญลักษณ์ขั้วโลกใต้ (ไลฟ์ไซน์)

สถานีวิจัยอามุนด์เซน-สก็อต์นี้มีผู้คนแวะเวียนไปถึง 250 คนในช่วงฤดูร้อนของทวีป
โดยอุณหภูมิเฉลี่ยตลอดทั้งปีประมาณ -50 องศาเซลเซียส (ไลฟ์ไซน์

ก็ต้องขอบคุณ โรอัลด์ อามุนด์เซน (Roald Amundsen) นักสำรวจชาวนอร์เวย์ และ กัปตัน โรเบิร์ต ฟอลคอน สก็อตต์ (Robert Falcon Scott) และคณะ  ที่บุกเบิกนำร่องให้กับนักสำรวจรุ่นต่อๆ มา  หลายท่านที่อ่านก็คงเสียดายทีมของสก็อตต์ที่ไปถึงช้ากว่า  แต่จริงๆ แล้วก็คงไม่ต้องเสียใจมากเพราะไปถึงช้ากว่าถึง 34 วัน  รายละเอียดช่วงระหว่างการแข่งขันไม่ได้มีอยู่ในสกู๊ปนี้  เพราะไม่อย่างนั้นมันจะยาวเกินไปเดี๋ยวเพื่อนๆ ขี้เกียจอ่านกัน  ไว้สกู๊ปหน้าต่อจากนี้จะนำเรื่องราวระหว่างการแข่งขันมาฝากว่าทำไมอามุนเซนถึงได้ชนะสก๊อต หวังว่าคงมีประโยชน์กับเพื่อนๆ ชาวโพสท์จังบ้างนะครับ ท้ายนี้ขอบคุณเพื่อนๆ ทุกคนที่อ่านจนจบครับ

คำคมขงเบ้ง


คำคมขงเบ้ง



เกียรติยศย่อมเกิดจากการกระทำที่สุจริต
ถ้าคุณหัวเสีย คุณจะเสียหัว
อย่าไล่สุนัขให้จนตรอก อย่าต้อนคนให้จนมุม
อำนาจที่ปราศจากเหตุผล คือ อำนาจของคนพาล อำนาจที่ปราศจากความเมตตา คือ อำนาจที่นำมาซึ่งความปราชัย
ถ้าคุณคิดจะเป็นใหญ่ คุณก็จะได้เป็นใหญ ถ้าคุณคิดอยากเป็นอะไร คุณก็จะได้เป็นสิ่งนั้น
เพราะแสวงหา มิใช่เพราะรอคอย เพราะเชี่ยวชาญ มิใช่เพราะโอกาส เพราะสามารถ มิใช่เพราะโชคช่วย ดังนี้แล้ว
 "ลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะตน"
นกทำรังให้ดูไม้ ข้าเลือกนายให้ดูน้ำใจ
ผู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด คือ ผู้ที่ทำตนให้เล็กที่สุด ผู้ที่เล็กที่สุดก็จะกลายเป็นผู้ที่ใหญ่ที่สุด ผู้ที่มีเกียรติ คือ ผู้ที่ให้เกียรติผู้อื่น
จริงคือลวง ลวงคือจริง ถ้าคุณคิดว่าข้าศึกมีทางเลือกเพียง 2 ทาง จงแน่ใจได้ว่าเขาจะเลือกทางที่ 3
ถ้าสติไม่มา ปัญญาก็ไม่มี
มังกรถ้าไร้หัว หางก็ตีกันเอง ถ้าคานบนเอน คานล่างก็เบี้ยว ถ้าเสาเอกเฉียง เสาโทก็เฉ
คนมองไม่เห็นการณ์ไกล ภัยก็จะมาถึงตัว คนไม่รู้จักตัดไฟ ภัยก็จะน่ากลัว
ยามเรืองรุ่งพุ่งเปรี้ยงดุจเสียงฟ้า แม้เทวายังสยบหลบทางให้ จะหยิบดาวเดือนชมก็สมใจ คงร้องให้วันหนึ่งแน่ คราวแพ้มี
ไม้คดใช้ทำขอเหล็กงอใช้ทำเคียว แต่ คนคดเคี้ยวใช้ทำอะไรไม่ได้เลย
เล่นหมากรุก อย่าเอาแต่บุกอย่างเดียว เดินหมากรุกยังต้องคิด เดินหมากชีวิต จะไม่คิดได้อย่างไร
เมื่อเสียหลักก็ต้องหลบอย่างฉลาด เมื่อพลั้งพลาดต้องรู้หลึกใส่ปลีกหาง ค่อย ๆ คิด ค่อย ๆทำ ค่อยคลำทาง จึงจะย่างสู่จุด
หมายเมื่อปลายมือ
ปลาใหญ่มักตายน้ำตื้น
เกียรติยศย่อมเกิดจากการกระทำที่สุจริต
ถ้าสติไม่มา ปัญญาก็ไม่มี
เมื่อใครสักคนหนึ่ง ทำผิด ท่านอย่าเพิ่งตำหนิหรือต่อว่าเขา เพราะถ้าท่านเป็นเขาและตกอยู่ในสภาพแวดล้อมเช่นเดียว กับ
เขา ท่านอาจจะตัดสินใจทำเช่นเดียวกับเขาก็ได้
การบริหารคือการทำงานให้สำเร็จโดยอาศัยมือผู้อื่น
ผู้ปกครองระดับธรรมดา ใช้ความสารมารถของตนอย่างเต็มที่ ผู้ปกครองระดับกลาง ใช้กำลังของคนอื่นอย่างเต็มที่ ผู้
ปกครองระดับสูง ใช้ปัญญาของคนอื่นอย่างเต็มที่
อ่านคนออก บอกคนได้ ใช้คนเป็น
เมื่อนักการฑูตพูดว่า "ใช่ หรือ อาจจะ" เขามีความหมายว่า "อาจจะ" เมื่อนักการฑูตพูดว่า "อาจจะ" เขามีความหมายว่า
"ไม่" เมื่อนักการฑูตพูดว่า "ไม่" เขาไม่ใช่นักการฑูต เพราะนักการฑูตที่ดีจะไม่ปฏิเสธใคร
เมื่อสุภาพสตรีพูดว่า "ไม่" หล่อนมีความหมายว่า "อาจจะ" เมื่อสุภาพสตรีพูดว่า "อาจจะ" หล่อนมีความหมายว่า "ใช่ หรือ
ได้" เมื่อสุภาพสตรีพูดว่า "ใช่ หรือ ได้" หล่อนไม่ใช่สุภาพสตรี
คิดทำการใหญ่ อย่าสนใจเรื่องเล็กน้อย
ตาสามารถมองเห็นสิ่งที่ไกลได้ แต่ไม่สามารถ มองเห็นคิ้วของตน คนส่วนใหญ่ใส่ใจกับผลได้ระยะสั้นเท่านั้น แต่คนฉลาด
อย่างแท้จริงจะมองไปยังอนาคต
อำนาจที่ปราศจากเหตุผล คือ อำนาจของคนพาล อำนาจที่ปราศจากความเมตตา คือ อำนาจที่นำมาซึ่งความปราชัย
ยามเรืองรุ่งพุ่งเปรี้ยงดุจเสียงฟ้า แม้เทวายังสยบหลบทางให้ จะหยิบดาวเดือนชมก็สมใจ คงร้องให้วันหนึ่งแน่ คราวแพ้มี
ตัดไผ่อย่าไว้หน่อ ฆ่าพ่ออย่าเหลือลูก คิดทำการใหญ่ ใจคอต้องเหี้ยมหาญ
ข้าพเจ้ายอมทรยศต่อคนทั้งโลก ดีกว่าให้คนในโลกทรยศต่อข้าพเจ้า
เป็นแม่ทัพแล้วไม่กล้าตัดหัวคน เป็นแม่ทัพที่ดีไม่ได้
คนฉลาดปราดเปรื่อง เขานั่งนิ่งสงวนคม
ไม่มีใครเลี้ยงอาหารใครเปล่า ๆ โดยไม่หวังผลประโยชน์ตอบแทน
ศัตรูที่ร้ายเหลือ ไม่เท่าเกลือเป็นหนอน
ความรู้ คือ อำนาจ
นั่งภูดูเสือ กัดกัน
เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือคนยังมียอดคน ฉะนั้นจึงอย่าประมาท
ถ้าเป็นกษัตริย์ แล้ว ไม่โลภ ก็ เป็นกษัตริย์ ที่ดีไม่ได้ ถ้าเป็นนักบวชแล้วโลภ ก็ เป็นนักบวช ที่ดีไม่ได้
ตาสามารถมองเห็นสิ่งที่ไกลได้ แต่ไม่สามารถ มองเห็นคิ้วของตน
น้ำไหลลงสู่ที่ต่ำฉันใด เราก็กลายเป็นคนฉลาดในช่วงเวลาลำบากฉันนั้น
ดวงอาทิตย์ทำให้ทุกสิ่งกระจ่างชัด แต่ เรายังต้องทำความเข้าใจในส่วนที่มืด ซึ่งยังคงดำรงอยู่

  • คุณจะต้องเดินเข้าไปด้วยตัวคุณเอง
  • ความหิวแก้ด้วยอาหาร ความเขลาแก้ด้วยการศึกษา
  • ถ้าไม่ศึกษาเพิ่มเติมขึ้นทุกๆ วัน ก็จะล้าหลังลงทุกๆ วัน
  • การศึกษาเปรียบเสมือนพายเรือทวนน้ำ ถ้าไม่รุดหน้าก็ถอยหลัง
  • เลี้ยงลูกชายโดยไม่ให้การศึกษา ก็เหมือนเลี้ยงลา เลี้ยงลูกสาวโดยไม่ให้การศึกษา ก็เหมือนเลี้ยงหมู
  • เงียบลง คุณจึงจะคิดได้ ถ้าคุณไม่เงียบ คุณจะไม่ได้ยินทุกอย่างที่คนพูดกับคุณ
  • เพราะว่าใจคุณพะวงอยู่กับสิ่งที่คุณคิดว่าคุณรู้แล้ว เรียนรู้ที่จะฟัง ฟังด้วยหัวใจของคุณ
  • หนังสือทุกเล่มอ่านอย่างละเอียด แบบขบเคี้ยวเพื่อให้ได้เนื้อแท้ของมัน
  • ผู้ใดรู้จักใช้พู่กัน จะไม่ต้องขอทานเขากิน
  • อุดมการณ์เล็กนิดเดียว แต่ใจใหญ่ ผลสุดท้ายย่อมแย่ ลังเลโลเล สุดท้ายย่อมเสียใจ
  • เรียน จึงรู้ว่าตนเองด้อยความรู้ สอน จึงรู้ว่าลำบาก
  • ผู้ที่รู้ว่าด้อยความรู้ จึงจะเตือนตัวเองได้ ผู้ที่รู้ว่าลำบาก จึงจะฝึกตนให้เข้มแข็ง
  • ไม่เป็นจึงต้องเรียน ไม่รู้จึงต้องถาม
  • พูดถึงอะไรสำคัญที่สุด ความประพฤติย่อมสำคัญที่สุด
  • การเรียนภาษาต่างประเทศนั้นไม่ยาก มันก็เหมือนกับการคบเพื่อน ยิ่งคบก็ยิ่งคุ้นเคย พบหน้ากันทุกวัน มิตรภาพก็ยิ่งสนิทแน่นแฟ้น
  • คนที่เก่งทุกทาง แท้จริงคือคนที่ไม่มีอะไรเก่งจริงสักอย่าง คนที่รอบรู้ไปหมดทุกเรื่อง แท้จริงคือคนที่ไม่เชี่ยวชาญอะไรเลย
  • อย่ากลัวที่จะก้าวไปข้างหน้าอย่างช้าๆ สิ่งที่ต้องกลัวอย่างเดียวคือการหยุดนิ่ง
  • คนที่เอาชนะผู้อื่นได้เป็นคนเข้มแข้ง คนที่เอาชนะตัวเองได้เป็นคนที่มีอำนาจ
  • คนรวย วางแผนสำหรับวันพรุ่งนี้ คนจนวางแผนแค่วันนี้
  • มีหนังสือตั้งเล่มเกวียน ก็ไม่เท่ามีครูคนเดียว
  • คนชั้นต่ำแต่มีการศึกษาดี มีประโยชน์ต่อบ้านเมือง คนชั้นสูงแต่ไร้การศึกษา จะมีประโยชน์อะไร
  • ความฉลาดประกอบไปด้วยการรู้จักใช้โอกาสให้เป็นประโยชน์
  • อย่ายอมแพ้ ตราบเท่าที่ยังมีความหวัง แต่อย่าหวังจนเกินเหตุผล เพราะนั่นสะท้อนให้เห็นถึงความปรารถมากกว่าการพินิจพิจารณา
  • ในโลกนี้ไม่มีอะไรนุ่มหรือบางกว่าน้ำ แต่การที่น้ำสามารถกัดเซาะสิ่งที่แข็งอย่างไม่ยอมจำนนนั้น ไม่มีอะไรจะเทียบได้
  • ความจริงที่ว่าคนอ่อนแอกว่าเอาชนะคนแข็งแรงกว่าได้ คนที่หยาบกระด้างต้องพ่ายแพ้ คนที่อ่อนโยน เป็นสิ่งที่ทุกคนรู้ แต่ไม่มีใครทำตาม
  • คนที่ยิ้มแทนที่จะโกรธ คือคนที่เข้มแข็งกว่าเสมอ
  • ต้นไม้ต้นใหญ่ๆ เกิดจากกล้าไม้ต้นเล็กๆ หอสูงเสียดเมฆา ฐานรากเตี้ยติดดิน
  • การเดินทางหลายพันลี้ เริ่มจากการก้าวเท้าก้าวแรก
  • ความยิ่งใหญ่ของอุดมการณ์ มิได้อยู่ที่การชนะผู้อื่น แต่อยู่ที่การชนะตัวเอง
  • ผู้มีใจตั้งมั่นย่อมชนะฟ้า ผู้ไร้ความตั้งมั่น ฟ้าย่อมชนะคน
  • ผู้ที่ขาดความเข้มแข็งทางจิตใจ ทำสิ่งใดก็ไม่บรรลุ
  • ทะเลรองรับแม่น้ำร้อยสายได้ จึงกว้างใหญ่ไพศาล บุคคลผู้สูงส่ง เข้มแข็งเพราะไร้กิเลสตัณหา
  • ผู้ที่ขาดคุณธรรม ย่อมไม่มีอุดมการณ์อันยิ่งใหญ่ ผู้ที่ขาดความรู้ ย่อมไม่มีสายตาอันกว้างไกล
  • จิตมั่น ความชั่วร้ายทั้งปวงย่อมไม่อุบัติ จิตสงบ จักไม่สนใจเรื่องทั้งปวง
  • ผู้ที่มีอุดมการณ์อันยิ่งใหญ่ จักไม่ยุติกลางคัน
  • การสร้างเนื้อสร้างตัวเป็นเรื่องลำบาก การธำรงไว้ซึ่งความสำเร็จยิ่งลำบาก แต่ผู้ที่รู้ว่าลำบากจักไม่ลำบาก


                                                                   
              สุภาษิตจีน เป็นเอกลักษณ์ประจำชาติจีน แต่สามารถนำมาผสมผสานกับสังคมไทยได้ ช่วยให้สภาพจิตใจดี หนักแน่น มั่นคง สามารถนำมาเป็นกำลังใจให้ชีวิต นำมาสร้างสรรค์ในการสนทนาและอาจทำให้เราเป็นจุดสนใจในกลุ่มได้ คำคมคายประโยคเดียว สามารถทำให้คนที่ได้ยินได้ฟัง ประทับใจและทำให้เกิดแสงสว่างได้ โดยที่เราอาจคิดไม่ถึง

  • กระจกไว้ดูหน้า ปัญญาไว้ดูใจ
  • กลองจะดังต้องดี ศิษย์จะดีก็ต้องครู
  • กลิ่นหอมที่รุนแรง ดึงดูดภุมรินที่น่าเกลียด
  • กับเพื่อนทำให้จน กับตนทำให้รวย
  • แกล้งโง่ให้ถูกเวลาเป็นยอดฉลาด
  • การสู้เพื่อพ่ายแพ้ไร้ค่า
  • การแต่งงาน คือจุดสิ้นสุดของความรัก
  • การเสียสละ คือผู้ให้ ไม่ใช่ผู้รับ
  • ขณะที่กำลังสอน สมองก็เรียนตาม
  • ของกินไม่กินก็พูด ของเก่าไม่เล่าก็ลืม
  • ข่าวร้ายมักไปไกล ข่าวลือมักเหลวไหล
  • ขี้จ่ายทนจน ขี้บ่นทนฟัง
  • ขี้โกงทนฉ้อ ขี้ขอทนอาย
  • ข้อความที่เป็นจริงไร้การแต่งเติม
  • ขลาดนักเสียการ กล้านักเสียกาย
  • เข้านอนท้องหิว ดีกว่าตื่นแล้วเจอหนี้
  • คนโง่ไม่รู้สุภาษิต คนฉลาดสร้างตัวแม้ไร้เงิน
  • คนโง่ถามปัญหาหนึ่งนาที คนฉลาดคิดทั้งที่ตอบไม่ได้
  • คนโง่สะสมเงิน คนฉลาดใช้ให้คุ้มค่า
  • คนดีมีน้อย คนถ่อยมีมาก
  • คนชอบเขาว่าเราดี คนชังเขาว่าเราชั่ว
  • คนฉลาดต้องรู้ว่าตนเองโง่
  • คนฉลาดไม่พูดมาก คนโง่พูดเป็นฉากๆ
  • คนใจแคบกังวลทุกเรื่อง คนใจกว้างยอมรับไปทั่ว
  • งาช้างที่ไหนจะงอกจากปากหนูนา
  • งาช้างมั่นคงไม่หดคืน วาจามั่นใจไม่กลิ้งกลอก
  • ง่ายตอนที่คิด พอทำกับมาติด
  • เงินทองร้อยล้าน ยังน้อยกว่าน้ำใจร้อยดวง
  • งูพิษที่เลวร้ายมีค่ามากกว่าเพื่อนเลวที่หักหลัง
  • เงินหมดยกให้พี่หา เงินมียกให้น้องใช้
  • โง่แล้วอย่าอวดดี จะเสียทีเพราะคนอื่น
  • เงาย่อมไม่มีคน
 
  • จงเข้มงวดกับตนเอง แต่ให้ผ่อนปรนกับคนอื่น
  • จงคิดถึงคนอยู่ให้มาก จงลืมคนจากให้พ้น
  • จงอดทนรอให้ใบหม่อนกลายเป็นผีเสื้อ
  • จงเอาใจใส่เขาเหมือนอยู่ในใจเรา
  • จงเรียนให้ชัด จงดูให้เห็น จงทำให้จริง
  • จงรู้ว่าตัวเราเป็นใคร และเป็นตัวของตัวเอง
  • จะช้าเพื่ออยู่ต่อ หรือจะรีบเพื่อลาจาก
  • จอดเรือให้ดูท่า จะนั่งให้ดูพื้น
  • ฉลาดหรือโง่วัดกันที่วาจา
  • ฉลาดต้นปี ไม่สู้ฉลาดตอนปลายปี
  • ฉากแรกที่มีรัก เป็นบทจบของสติปัญญา
  • เฉพาะคนที่ขี้เกียจ ถึงจะเชื่อเรื่องโชคชะตา
  • เฉพาะคนที่ไม่ลดละ ผู้นำรออยู่ข้างหน้า
  • ฉิบหายตอนต้น ดีกว่าเสียหายตอนปลาย
  • เฉพาะคนสู้ชีวิต จึงสมควรมีชีวิตอยู่
ฉันคือผู้แพ้ นั่นแหละเธอจึงชนะ         
  • ชัยชนะที่สูงค่า คือชนะใจตนเอง
  • ช่วยตนเองให้หนัก ดีกว่าช่วยคนอื่นให้มาก
  • ชมด้วยคำหลอกไม่สำเร็จเท่าด่าด้วยคำจริง
  • ชายไร้ญาติ เพราะภรรยาจะไร้ค่าในครอบครัว
  • ชีวิตคนเราอยู่ได้เจ็ดวัน
  • ชีวิตคือความเศร้าในคนทุกข์ คือความสนุกในยามฝัน
  • ชีวิตเสือมีลาย ชาติชายมีชื่อ
  • ดนตรี คืออารมณ์ของสวรรค์
  • ดินไม่อวดว่ากว้าง ฟ้าไม่อวดว่าสูง
  • ดีใจกับเสียใจมีคำตอบว่าจากไป และกลับมา
  • ดูด้วยตาหนึ่งครั้ง ดีกว่าฟังมาร้อยหน
  • เดือนหงายไม่นอน เดือนดับไม่ตื่น
  • ได้เกียรตินั้นง่าย รักษานั้นยาก
  • ได้เห็นรอยยิ้มดีกว่าได้ฟังเสียงร้อง
  • เดินด้วยขาตนเอง ดีกว่ารอคนมาพยุง

  • ทรัพย์สินถ้ายึดติด ชีวิตก็ไม่สุข
  • ท้อแท้จะผิดหวัง ลังเลจะแพ้พ่าย
  • ทองคำถ้าอยู่ ผ้าขี้ริ้วก็ไร้ค่า คนถ้ามีวิชาก็สูงส่ง
  • ทำงานอย่าหยุดชีวิตไม่อับจน
  • ทำดีอย่าหวังสิ่งตอบแทน
  • ทำบุญเอาหน้า แต่งหน้าหลอกตัว
  • ที่ใดมีคนที่นั่นมีชีวิต
  • ทุกคนล้วนซึ้ง ในวจีที่ออกมาจากใจ
  • ธรรมใดก็ไม่เกิดถ้าไม่ทำ
  • ธรรมชาติย่อมตายด้วยธรรมชาติ
  • ธรรมชาติของคนคือต้นไม้บนภูเขา
  • ธรรมเนียมประเพณี อย่ามองข้าม
  • ธรรมชาติของสตีร คือบุรุษที่เคียงข้าง
  • ธรรมชาติทั้งหลายจะยิ่งใหญ่ ถ้าใจรักษาธรรม
  • ธรรมชาติแห่งจิต คือเวลาที่อมตะ
  • ธรรมชาติของนก คือความอิสระ
  • นกฉลาดเลือกต้นไม้ควรเกาะ
  • นกที่สวย กรงยิ่งมาก
  • นกในมือหนึ่งตัว นกในมือนับล้าน
  • นรกอยู่ในใจ เกิดได้แม้สวรรค์มาหา
  • น้ำอยู่ที่ใด ปลาอยู่ที่นั่น
  • น้ำตามีวันหยุด น้ำใจไม่มีวันหมด
  • นิ่งเป็นภูเขา ราชายังมาหา
  • ในความทุกข์ยังมีความสุข
  • บนเส้นทางที่ยาวไกล ยังมีขวากหนามมากมาย
  • บนถนนที่เรียบยาว อาจเจอตอโดยฉับพลัน
  • บวชผ้าเหลืองก็เสียหาย สึกผ้าลายก็เปลือง
  • บ้านอยู่ที่ไหน หัวใจอยู่ที่นั่น
  • บาปเป็นรากเหง้า ของความทุกข์
  • บิดาคือธนาคาร ที่บุตรถอนเงินโดยไม่ต้องฝาก
  • บินสูงก็หนาว ตกลงมาก็เจ็บ
  • บุคคลใดไม่มีเพื่อน บุคคลนั้นไม่มีสังคม
  • ปกครองบ้านได้ ปกครองเมืองอยู่
  • ประชาชนถือคำพูด ผู้พิพากษาถือตัวหนังสือ
  • ประโยชน์อย่ามาก จิตใจจะล้น
  • ปรัชญาคนวัยดึก คือสำนึกคนวัยหนุ่มสาว
  • ปากกามีน้ำหมึก เข้มกว่าเลือดบนคมดาบ
  • ปลูกดอกไม้เป็นปี ได้ชมเพียงสิบวัน
ปวดกายยังมีวันหาย ปวดกายเจ็บไม่ลืม
  • ปกครองบ้านได้ ปกครองเมืองอยู่
  • ประชาชนถือคำพูด ผู้พิพากษาถือตัวหนังสือ
  • ประโยชน์อย่ามาก จิตใจจะล้น
  • ปรัชญาคนวัยดึก คือสำนึกคนวัยหนุ่มสาว
  • ปากกามีน้ำหมึก เข้มกว่าเลือดบนคมดาบ
  • ปลูกดอกไม้เป็นปี ได้ชมเพียงสิบวัน
  • ปวดกายยังมีวันหาย ปวดกายเจ็บไม่ลืม
  • เป็นดวงใจของคนแก่ ดีกว่าเป็นทาสชายหนุ่ม
  • ผ่านบัณฑิตเดินหน้า ผ่านคนโง่อ้อมหลัง
  • ผิดคำเดียวสัญญาล้มเลิก
  • ผู้ชอบเสนอมักจะโดนสนอง
  • ผู้ชนะเป็นราชา ผู้แพ้เป็นยาจก
  • ผู้ป่วยนาน จะไร้พยาบาลที่กตัญญู
  • ผู้ที่ยังไม่ได้ผ่านรสขม ก็จะไม่ได้เจอรสหวาน
  • ผู้นำที่เป็นเลิศต้องรู้จักปัญญา
  • ผู้มีปัญญา มีสุขกว่าผู้มีเงิน 
  • ฝนตกโปรยปรายนาน พายุผ่านแค่ครู่เดียว
  • ฝนตกอย่ามองดาว มีเมียสาวอย่าไว้ใจ
  • ฝ่ามือปิดฟ้าไม่มิด แต่ปิดตาไม่ให้สว่าง
  • ฝึกฝนตนเองให้เรียนรู้ ไม่ใช่รู้มาก
  • ใฝ่ร้อนนอนหลับ ใฝ่เย็นนอนตื่น
  • ใฝ่สูงเกินศักดิ์ ตกหลักเกือบตาย
  • ฝนเหล็กทั้งแท่ง นานเข้าจะเป็นเข็ม
  • ฝนตกทีละหยาด อาจเต็มตุ่มเพราะทีละหยด  
  • พยายามชนะตนเอง ดีกว่าชนะผู้อื่น
  • พระสร้างธรรม แต่มนุษย์สร้างบาป
  • พรุ่งนี้ไม่มืด มะรืนก็ไม่สว่าง
  • พ่อแม่ใช้เงินล้านแต่งลูกสาว แต่เงินร้อยล้านอบรมลูกชาย
  • พูดตรงก็เจ็บตัว พูดเท็จก็เจ็บใจ
  • พูดคนฉลาดหนึ่งคำ พูดคนโง่ร้อยคำ
  • เพลงชาติคือสวรรค์ของประชาชน
  • ฟังอย่าช้า พูดอย่าเร็ว
  • ฟังอ่านดูไม่คิดตาม เหมือนกินแล้วไม่ย่อย
  • ฟันใหเขาด ไม่งั้นคมดาบตามสนอง
  • ฟืนกลางป่าไม่มี ปลากลางทะเลทรายไม่ขาย
  • ไฟพิสูจน์ทอง ความอดทนพิสูจน์คน
  • ไฟ่ไม่ลาฟืน คืนไม่ลาวัน
  • ฟังเสียงแก้วแตก เหมือนฟังคำพูดรู้ว่าโง่หรือฉลาด
  • ฟังครึ่งๆกลางๆเหมือนฟังความข้างเดียว
  • ภรรยาถ้าไร้มารยาท ถึงเป็นลูกสาวนักปราชญ์ก็ไม่งาม
  • ภรรยาขี้เหร่ สาวใช้โง่เขลา คือสมบัติล้ำค่าของบ้าน
  • ภารกิจของสมองกับหัวใจ มักไปกันไม่ได้
  • ภาษิตภาษาสั้น แต่ประสบการณ์ยาวนาน
  • ภรรยาที่ดีควรเป็นรองเท้าคู่สามีเมื่อเดินพลาด
  • โภคทรัพย์เป็นผลลัพธ์ของค่าแรง
ภัยที่น่ากลัวคือการกระทำที่ไม่รู้จักคิด
  • มนุษย์ทำได้ทุกอย่าง ที่หัวใจต้องการ
  • มนุษย์บอกนั่นนี่ แต่สวรรค์ไม่ใช่นั่นนี่
  • มนุษย์มีโครงการมากมาย แต่สวรรค์มีโครงการเดียว
  • มนุษย์สุดท้าย ก็แค่โลงสี่เหลี่ยม
  • มารยาหญิงร้อยเล่ม แต่ชายพันเล่ม
  • มากมาจากน้อย ร้อยมาจากสิบ
  • มองสูงได้ ก็อย่าหาที่ต่ำ
  • มีเงินทองใช่สุขศรี มีความดีนี่สิสุขสันต์
  • ยศกับตำแหน่งใช่ว่าจะดีไปหมด
  • ยอดคน ความผิดพลาดและอุปสรรค์ เป็นบันไดไปสู่ความสำเร็จ
  • ยอมจนในตอนต้น ดีกว่าลำบากในตอนปลาย
  • ยากจะหาสุขที่ไร้โศก
  • ยิ่งรู้น้อย ก็ยิ่งสงสัยมาก
  • ยิ่งสร้างตึกสูง รากฐานก็ยิ่งต้องมั่นคง
  • ยุติธรรมไม่ปราณี คือความโหดร้าย
  • รอบคอบแต่ขาดปัญญา ดีกว่ามีปัญญาแต่ไม่รอบคอบ
  • ระฆังจะดังต้องตี คนดีจะต้องลงปฎัก
  • รักที่จะสู้ ต้องพร้อมอยู่เมื่อแพ้
  • ระยะใกล้ความแตกต่างเห็น ระยะห่างความคล้ายคลึงมา
  • ระหว่างเพื่อน คำเท็จไม่กล่าว
  • รักพ่อแม่ คือแสงบริสุทธิ์ที่ส่องโลก
  • รักแท้หายาก แต่มิตรแท้กับยากกว่า
  • ลมพัดผ่านไป ลมแดดไม่ผ่านตาม
  • ละครดีหาคำอธิบายไม่มี
  • ลาดีมีค่า กว่าม้าพยศสู้
  • ลิงน่าเกลียด แต่ก็กระเดียดมาทางเรา
  • ลิ้นไม่มีกระดูก แต่คมยิ่งกว่าฟัน
  • ลิ้นอยู่ในปาก แต่คนก็รังเกียจได้น่าพิศวง
  • ลูกมะเขือหล่นไม่ไกลต้น
  • โลกนี้เหมือนหนังสือ ที่อ่านแล้วต้องติดตามตอนจบ
  • วันนี้เราปลูกต้นไม้ วันต่อไปเราจะมีร่มเงา
  • วันนี้ยอมลำบาก แต่วันหน้ารอวันรวย
  • วาจาพูดอะไรให้คิด เพราะไม่สามารถเรียกคืน
  • วัยแรกไม่มีความรู้ วันวัยไม่หาเงิน วัยสามไม่ทำดี วัยสี่จะเหลืออะไร
  • วาจาถ้าหวานนัก ความหมายมักจะขมขื่น
  • เวลาเหมือนน้ำไหล ผ่านไปไม่คืนกลับ
  • เวลามีให้เก็บ เวลาหมดให้ปลง
  • ศักดิ์ศรีจะสูญสิ้น ถ้าเชื่อคำหวาน
  • ศัตรูของศิลปะ คือความโง่ของศิลปิน
  • ศัตรูที่ร้ายกาจของมนุษย์คือตัวเอง
  • ศาสนาพูดไม่ได้ แต่เข้าถึงใจได้ลึกที่สุด
  • ศิษย์ต้องเกรงกว่าครู โลกจึงเจริญ
  • เศรษฐีตระหนี่ ยาจกยังรวยกว่า
  • ศึกษามามากแต่ไม่จำก็ไร้ค่า ตายไปก็ลืมหมด
ศัตรูที่ฉลาด ใช้วาจาเป็นอาวุธ
  • สตรีที่ดีทุกระเบียบนิ้ว มีอยู่ในนิยาย
  • สรรพสิ่งย่อมผันแปรเหมือนวันหนึ่ง สะใภ้จะเป็นแม่ผัว
  • สวรรค์ไม่มีตา แต่มีตาดู หูฟัง
  • สอนใครก็สอนได้ แต่สอนตนสอนไม่ได้
  • สัจจะไม่มีคำอธิบาย ก็เข้าใจได้โดยง่าย
  • สัจจะสลายเมื่ออารมณ์เกิด
  • สัมผัสที่หลอกล่อ เป็นเสน่ห์ที่หลอกใจ
  • สิ่งที่ยังไม่มา ก็ยังไม่มีสิ่งที่จะไป
  • หญิงรักไม่บ่อย ชายรักน้อยบ่อยครั้ง
  • หญิงสาวแต่งให้พ่อแม่ หญิงหม้ายแต่งให้ตนเอง
  • หนังสือคือสิ่งอมตะ เป็นมรดกให้ลูกหลาน
  • เหนือฟ้า ยังมีฟ้ออยู่
  • เหนี่ยวรั้งความอยากไว้ หนี้ไม่มี
  • หลงยศ อำนาจ บารมี ความอุบาทว์ตามมา
  • หมื่นแสนบาทของเขา สลึงเดียวในกระเป๋าเราดีกว่า
  • อกเราคือกระเป๋าแห่งความทุกข์
  • อดได้เป็นพระละได้เป็นดี
  • อวดรู้เพราะไม่รู้ อวดรวยเพราะไม่มี
  • อวดสวยเพราะไม่งาม
  • อย่าดื่มโดยไม่เห็น อย่าเซ็นโดยไม่อ่าน
  • อย่าเปิดความในใจ หากยังไม่ถึงเวลา
  • อย่าหลงงมงายกับคำยอ อย่าท้อแท้กับคำหยาบ
  • อยู่ในเรือนกระจก อย่าคิดขว้างก้อนหิน

วันจันทร์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2555

สถานที่ท่องเที่ยว


สถานที่ท่องเที่ยวทางภาคเหนือ
อากาศบ้านเราเริ่มหนาวแล้ว สถานที่ต่างๆ เริ่มมีบรรดานักท่องเที่ยว ทยอยขึ้นดอยสัมผัสความหนาว ทะเลหมอก น้ำค้าง และสายลมกันบ้างแล้ว ชีวิตคนเมืองอย่างเราไม่ค่อยได้สัมผัสอากาศหนาวเท่าไรนัก (นอกจากความหนาวจาก แอร์คอนดิชั่น) แต่ถ้าเป็นต่างจังหวัด ก็พอจะมีโอกาสได้รับรู้ถึงความหนาวกันบ้าง ยิ่งบนยอดดอยไม่ต้องพูดถึง บางแห่งหนาวเกือบตลอดทั้งปี
สำหรับวันนี้ เรามีสถานที่ ที่น่าสนใจ 10 แห่ง ที่มักจะมีนักท่องเที่ยวขึ้นมาสัมผัสความหนาวให้ได้รู้จักกัน ซึ่งแน่นอนว่าส่วนใหญ่อยู่ในเขตเทือกเขาทางภาคเหนือ ลองมาดูกันซิคะว่าเราเคยไปเที่ยวกันครบทั้งสิบแห่งหรือยัง

1. อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ 
ชื่อนี้มักจะเป็นติดอันดับต้นๆ ของการท่องเที่ยว เดิมชื่อว่า ดอยหลวง หรือ ดอยอ่างกา ดอยหลวง หมายถึงภูเขาที่มีขนาดใหญ่ ส่วนที่เรียกว่า ดอยอ่างกานั้น เพราะมีหนองน้ำอยู่แห่งหนึ่งลักษณะเหมือน อ่างน้ำ มีฝูงกาไปเล่นน้ำกันมากมาย จึงเรียกว่า อ่างกา หรือ ดอยอ่างกา
ดอยอินทนนท์ เป็นยอดดอยที่สูงที่สุดในประเทศไทย (2,599 เมตร) จึงทำให้มีสภาพอากาศหนาวเย็นตลอดปี สถานที่น่าสนใจในอุทยานฯ มี น้ำตกแม่ยะ น้ำตกแม่กลาง น้ำตกวชิรธาร น้ำตกสิริภูมิ ถ้ำบริจินดา โครงการหลวงอินทนนท์ และ เส้นทางศึกษาธรรมชาติหลายจุด
 
 

น้ำตกแม่ยะน้ำสีโคลน

2. ดอยอ่างขาง 
เป็นที่ตั้งสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง ภายในสถานีมีโครงการวิจัยผลไม้ ไม้ดอกเมืองหนาว งานสาธิตพืชไร่ แปลงทดลองปลูกไม้ผลเมืองหนาว สวนบอนไซ มีการจำหน่ายผลิตผลพืชผักเมืองหนาวที่ปลูก ในบริเวณโครงการฯ ให้แก่นักท่องเที่ยวตามฤดูกาล ในสถานีฯ มีที่พัก และมีสถานที่กางเต็นท์บริการแก่นักท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ


3. เขาค้อ – อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์ 

เป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงของจังหวัดเพชรบูรณ์ ที่ชื่อว่าเขาค้อเป็นเพราะ ป่าบริเวณนี้มีต้นค้อขึ้นอยู่มาก เนื่องจากภูมิอากาศบนเขาค้อเย็นตลอดปี ค่อนข้างเย็นจัดในฤดูหนาว และมีทัศนียภาพสวยงาม จึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดแห่งหนึ่ง ของเพชรบูรณ์ สถานที่น่าสนใจบนเขาค้อได้แก่ อนุสาวรีย์จีนฮ่อ ฐานอิทธิเจดีย์ พระบรมสารีริกธาตุเขาค้อ หอสมุดนานาชาติเขาค้อ พระตำหนักเขาค้อ น้ำตกศรีดิษฐ์ สวนสัตว์เปิดเขาค้อ และเนินมหัศจรรย์ หมู่บ้านคุ้มจุดชมวิวกิ่วลม หมู่บ้านนอแล และหมู่บ้านขอบด้ง หมู่บ้านหลวง
อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขาสูงสลับซับซ้อน เป็นแหล่งต้นน้ำที่สำคัญของแม่น้ำหลายสาย สถานที่น่าสนใจ ในเขตอุทยานฯ ได้แก่ ทุ่งหญ้ากงวัง ถ้ำผาหงษ์ สวนสนบ้านแปก สวนสนภูกุ่มข้าว น้ำตกซำผักคาว น้ำตกทรายแก้ว น้ำตกทรายเงิน น้ำตกเหวทราย น้ำตกทรายทอง ภูผาจิต หนองปลาไหล หนองน้ำขุ่น น้ำตกตาดพรานบา ผาล้อม ผากอง ถ้ำใหญ่น้ำ


4. อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง 
ด้วยสภาพอากาศที่เย็นสบายตลอดทั้งปี มีเทือกเขาและภูเขาสูง สลับซับซ้อน ครอบคลุมอำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ และอำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ภูเขาที่สูงที่สุด คือ ดอยช้าง เป็นป่าต้นน้ำลำธาร มีลำห้วยน้อยใหญ่มากมาย ฤดูหนาวอากาศเย็น ลมแรง


5. ภูชี้ฟ้า-ผาตั้ง จ.เชียงราย 
ภูชี้ฟ้า เป็นจุดชมวิวทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นอีกแห่งหนึ่ง มีลักษณะเป็นยอดเขาที่แหลมชี้ขึ้นไปบนท้องฟ้า ยิ่งตอนที่พระอาทิตย์กำลังขึ้นมาตรงระหว่างปลายยอดเขา จะดูเหมือน เสือคาบแก้วมาก มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,628 เมตร ส่วนของหน้าผาเป็นแนวยาวยื่นไปทางฝั่งประเทศลาว
ดอยผาตั้ง อยู่บนเทือกดอยผาหม่น เป็นจุดชมวิวสองฝั่งโขง ไทย-ลาว และทะเลหมอก บนดอยมีหมู่บ้านชาวจีนฮ่อ ม้ง และเย้า โดยเฉพาะ ชาวจีนฮ่อนั้น อดีตเคยเป็น ส่วนหนึ่งของกองพล 93 ซึ่งอพยพเข้ามา ตั้งถิ่นฐานอยู่ที่ดอยผาตั้งนี้ ปัจจุบันประกอบอาชีพทางการเกษตร ปลูกพืชเมืองหนาว เช่น บ๊วย ท้อ สาลี่ แอปเปิ้ล
6. อุทยานแห่งชาติภูกระดึง 
เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ได้รับความนิยมมากแห่งหนึ่ง ของเมืองไทย เพราะมีสภาพธรรมชาติสมบูรณ์ประกอบด้วยระบบนิเวศและ ภูมิประเทศหลากหลาย ทั้งทุ่งหญ้า ป่าสนเขา ป่าดิบ น้ำตกและ หน้าผาชมทิวทัศน์ ลักษณะเด่นของอุทยานฯ แห่งนี้คือเป็นภูเขาหินทราย ยอดตัด เป็นที่ราบขนาดใหญ่คล้ายใบบอนหรือรูปหัวใจ มีเนื้อที่ประมาณ 60 ตารางกิโลเมตร มีความสูง 400-1,200 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง จุดท่องเที่ยวประทับใจได้แก่ ผานกแอ่น ผาหล่มสัก ผาหมากดูด น้ำตกเพ็ญพบ น้ำตกถ้ำสอเหนือ-ใต้ สระอโนดาด เป็นต้น
7. อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า 
ตั้งอยู่บนรอยต่อของสามจังหวัดคือ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ และเลย ไร่ภูหินร่องกล้ามียอดเขาสูง 1,617 เมตร มีทิวทัศน์สวยงาม ปกคลุมด้วยป่าเต็งรังป่าดิบเขา และป่าสนเขา มีสนสองใบและสนสามใบ ขึ้นปะปนกัน และพบกล้วยไม้ดอกไม้ป่าหลายชนิดขึ้นอยู่ตามลานหิน เคยเป็นศูนย์กลางที่ตั้งฐานที่มั่นการเผยแพร่ลัทธิคอมมิวนิสต์ที่ใหญ่ และสำคัญที่สุดของภาคเหนือ จุดที่น่าสนใจ ลานหินปุ่ม ลานหินแตก น้ำตกหมันแดง เป็นต้น
8. ทุ่งบัวตองดอยแม่อูคอ – ดอยแม่เหาะ จ.แม่ฮ่องสอน

ดอยแม่อูคอ เป็นทุ่งดอกบัวตองที่มีพื้นที่ครอบคลุมเป็นเขากว้าง ประมาณ 1 พันไร่ ดอกบัวตองที่นี่เมื่อบานพร้อม ๆ กันในช่วงเดือน พฤศจิกายน-ธันวาคม จะเหลืองอร่ามปกคลุมทั่วทั้งภูเขา ดอยแม่เหาะ อยู่ริมทางหลวงหมายเลข 10-8 ตรงบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 84 เขตตำบลแม่เหาะ เป็นที่ตั้งของศูนย์พัฒนาและสงเคราะห์ชาวเขา จังหวัดแม่ฮ่องสอน บริเวณนี้ มีภูมิประเทศที่งดงาม มีชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยง อยู่เป็นส่วนมาก ในเดือนพฤศจิกายน ถึงธันวาคม ของทุกปี ดอกบัวตอง หรือทานตะวันป่า จะบานสะพรั่ง ไปทั่วหุบเขา สวยงามมากทีเดียว



9. อุทยานแห่งชาติภูเรือ 
เป็นภูเขาสูงใหญ่ บนยอดเขาเป็นที่ราบกว้างใหญ่ มีต้นสนขึ้นสลับซับซ้อน มีลักษณะแปลกคือ มีส่วนหนึ่งเป็นผา ชะโงกยื่นออกมาเหมือน หัวเรือสำเภาใหญ่ อุทยานแห่งชาติภูเรือ จุดที่น่าสนใจบนอุทยานได้แก่ ผาโหล่นน้อย ภูผาสาด และทะเลภูเขา ผาซับทอง หรือ ผากุหลาบขาว เป็นหน้าผาสูงชัน และแหล่งน้ำซับที่มีพืชน้ำไลเคนสีเหลืองคล้ายสีทอง ขึ้นเต็มไปทั่ว น้ำตกห้วยไผ่ เป็นน้ำตกที่ไหลจากหน้าผาสูงชัน ยอดภูเรือ เป็นจุดสูงสุดในอุทยานฯ สามารถมองเห็น แม่น้ำเหืองและแม่น้ำโขงที่กั้นพรมแดนระหว่างไทย-ลาว


10. อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว
สภาพพื้นที่เป็นภูเขาสูงที่ป่าปกคลุมอากาศหนาวเย็นเกือบตลอดทั้งปี การเดินทางขึ้นดอยค่อนข้างลำบาก แต่เมื่อขึ้นไปถึงแล้วจะพบดอกไม้ป่า พันธุ์ต่าง ๆ เช่น ดอกหงอนนาค ดอกไม้ดินต่าง ๆ สวยงามมาก แหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ได้แก่น้ำตกภูสอยดาว และลานสน


ที่น่าสนใจอื่นๆที่ยังคงมีเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวไป
1. ปางอุ๋ง
หมู่บ้านรวมไทย เป็นหมู่บ้านโครงการพระราชดำริปางตอง 2 (ปางอุ๋ง) ในพระบรมราชินูปถัมป์ของสมเด็จพระบรมราชินีนาถ
ลักษณะพื้นที่เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่บนยอดเขาสูง ริมอ่างเก็บน้ำเป็นแนวสนที่ปลูกเรียงรายอย่างกลมกลืน ยามพระอาทิตย์ขึ้นจะสะท้อนผืนน้ำเป็นลำแสงสีทองผ่านแนวสนเขียวขจี งดงามจนถือได้ว่าเป็นทะเลสาบที่สวยที่สุดในเมืองไทย เปรียบได้กับ นิวซีแลนด์เมืองไทย และเมื่อได้สัมผัสกับแปลงพันธ์ไม้เมืองหนาวหลากสีสันที่ปลูกประดับในโครงการ ฯ ซึ่งเปรียบเสมือนกับ สวิสเซอร์แลนด์เมืองไทย ปางอุ๋ง …เมื่อฟากหนึ่งเป็นนิวซีแลนด์ และอีกฝั่งหนึ่งเป็นสวิสเซอร์แลนด์

2. ปาย
ในฤดูหนาวที่เยือนมาอีกรอบหนึ่งของเมืองไทย หลายๆคนจัดแจงวางแผนบุกป่าผ่าเขาเพื่อค้นหาความเยือกเย็นที่ปีหนึ่งจะมีสักครั้งที่แน่ๆ เกือบทั้งหมดนั้นเดินทางขึ้นเหนือ จะไปที่ไหนก็ตามแต่ ที่นี่หลายคนบอกว่าไม่ควรพลาด อ.ปาย ที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ปาย เป็นเมืองเล็ก ๆ ที่ถูกโอบล้อมไปด้วยขุนเขา สูงตระหง่านเป็นรอยต่อชายแดนไทย-พม่า ฤดูหนาวอากาศเย็นจัด เมืองเล็กๆแห่งนี้มักปกคลุมด้วยสายหมอก ละอองน้ำจางๆยามเช้า บรรยากาศอันเงียบสงบ ทุ่งนาสีเขียว ท้องฟ้าสีคราม กับแสงแดดอุ่นๆ ที่ทอดผ่านม่านหมอกหนา แลเห็นต้นสนไม้ยืนต้นเมืองหนาวสูงใหญ่เป็นทิวแถวตามเชิงเขา วิถีชีวิตที่เรียบง่ายของผู้คน ด้วยความเป็นเอกลักษณ์นี้ “ปาย”ได้ดึงดูดนักเดินทางให้มาสัมผัสมนต์เสน่ห์แห่งนี้
อ้วก + หลับ = แม่ฮ่องสอน
 3. ภูทับเบิก
ตั้งอยู่ที่ บ้านทับเบิก ต.วังตาล ห่างจากอ.หล่มเก่า 40 กม. และห่างจากตัวจังหวัดเพชรบูรณ์ประมาณ 97 กม. มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,768 เมตร และเป็นจุดที่สูงที่สุดของเพชรบูรณ์ ชาวเพชรบูรณ์เรียกว่า “ภูทับเบิก”
ภูทับเบิก มีสภาพภูมิประเทศที่สวยงามด้วยธรรมชาติแบบทะเลภูเขา ป่าไม้ ต้นไม้เมืองหนาวและน้ำตก มีอากาศบริสุทธิ์ สภาพภูมิอากาศเย็นสบายตลอดปี เนื่องจากร่องลมเย็นจากเทือกเขาหิมาลัยและอยู่บนที่สูง จึงสามารถมองเห็นทิวทัศน์ได้กว้างไกล โดยช่วงเข้าจะมองเห็นกลุ่มเมฆ และทะเลหมอกตัดกับยอดเทือกเขาเพชรบูรณ์
 
 

ปัจจุบันภูทับเบิกเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของชนกลุ่มน้อยเป็นชาวไทยภูเขาเผ่าม้ง ซึ่งได้อพยพมาอาศัยอยู่ที่บ้านทับเบิก หมู่ที่ 14 และหมู่ที่ 16 ต.วังตาล อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ โดยอยู่ในความดูแลของศูนย์พัฒนาสงเคราะห์ชาวเขาจังหวัดเพชรบูรณ์ จึงทำให้ภูทับเบิกมีสีสันด้วยวิถีชาวไทยภูเขา ซึ่งประกอบด้วยอาชีพทำการเกษตรแบบขั้นบันไดตามเชิง
ก่อนตัดสินใจเดินทาง ขอให้เตรียมตัวให้พร้อม หากขับรถคนเดียวต้องจอดพักบ่อยๆ ตรวจสภาพรถก่อนเดินทาง แล้วอย่าลืมหยิบกระเป๋าตังค์ไปด้วยนะครับ
ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพ ทุกๆคน
ขอขอบคุณสมาชิกมัลติพลายทุกท่านที่ส่งภาพสวยๆมาเพื่อเผยแพร่ความงามของเมืองไทย ไทยเที่ยวไทย ไปได้ทั้งปี